แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ MT4 Forex แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ MT4 Forex แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

+++





สิ่งที่ยากมากสำหรับทุกวันนี้คือ ...  " ใจ" กับการ "อดทนรอ"  ทั้งรอให้มันกำไร หรือตอนมันลบ แล้วรอมันกลับ
อันนี้ ตัวทดสอบแนวคิดอีกตัว คือเล่นตาม MA ใช้ TF Day ที่เคยแชร์ อยากจะประคอง port เล็กๆ port นี้ ให้ได้สัก 2-3 เดือน หรือนานกว่านั้น

กำไรไม่ได้ serious มากเพราะแบ่งเอกกำไรจาก port หลักมาลองแนวคิด
ข้อผิดพลาด คือ ไปเทรด "ทอง " และทองคือตัวที่ทำให้หลาย ๆ port พัง แต่ก็ยังไม่วาย
..เมื่อวานปิดไปแหละ อาทิตย์หน้าเริ่มใหม่ ห้ามเอาทองเข้า port นี้เด็ดขาด...!!!!

แนวคิดยังเหมือนเดิม 

Moving Average 5 วัน หาตัวที่กำลังมี Trend และตั้งซื้อ ด้านล่าง ค่าเฉลี่ย Low และขายค่าเฉลีย High  
เช่นกัน ถ้าตัวไหนเทรนลงชัดก็ตั้งซื้อค่าเฉลี่ยน High แล้วไปขาย เฉลี่ย Low
(อันนี้คือ Add MA เข้าไป 3 เส้น ค่าเดียวกัน แต่เปลี่ยน parameter ว่า เส้นกลางคือ เอาราคาปิดมาหาค่าเฉลี่ย เส้นบน เอาราคา High มาตี ส่วนตัวล่างจะเป็น Low มันจะคล้ายๆ Bollinger แต่แค่อยากลอง)
แต่เมื่อเช้า เอะใจว่า ถ้าเจอแบบวันที่ CHF ลาก...port นี้จะพังทันที

แต่ตอนนี้ได้แนวคิดการแก้ไขแล้ว คือไม่ตั้ง Pending order แต่จะทำ EA Ask manaul ให้ alert จุดทีเข้าซื้อ ถ้าเราไม่กด confirm ก็จะไม่มีการซื้อขาย ถือเป็นการป้องกันความเสี่ยงให้กับ Port อีกทางหนึ่ง
(Port นี้ไม่มีการตั้ง SL เหมือนเดิม) บังคับ Lot 0.01 แต่ %margin ให้เหลือกมากกว่า 500-800 ขึ้นไป
ส่วน port หลัก...ไม่ไปไหนเลยช่วงนี้ สติขาด...เลยหยุดเทรด มันซ่ะเลย แต่มาเทรด US Option

วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2557

+++ 3-Aprl-2014 เช็คสัญญาณ การเทรด แบบระยะยาว คงมาได้เท่านี้

3-Aprl-2014 เช็คสัญญาณ การเทรด แบบระยะยาว คงมาได้เท่านี้ ตรวจสอบแล้ว มีสัญญาณกลับตัวมาจะหมดทุกคู่ แต่ลงมากน้อยไม่รู้ เลยคิดว่าจะเปลี่ยนแผน 

สรุป 3 week มาได้ 76% สูงสุดได้ 92% 

ปรับกลยุทธ์ สำหรับบัญชีนี้ คือยังคงเป็นการเทรด ระยะยาว 2-3 week แต่การเข้าออก จะใช้ Aget เป็นตัวกรองสัญญาณ ต่าง ๆ เช่น wave 3,4,5 ขาขึ้นลง adx กำลังแรง xtl กำลังแรง pti + stoch แล้วค่อย ๆ  ตามดูแลกันไป 





แผนการเขียนบนพื้นทราย เป้าหมายเขียนไว้บนแผ่นหิน


วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2557

+++ พอดีมีแนวคิด อยากทดลองเทรด แบบ snow ball + Elliot wave

พอดีมีแนวคิด อยากทดลองเทรด แบบ snow ball + Elliot wave  คิดไว้แบบนี้ คือจะใช้ Aget Scan Wave 3 และ ADX สวย ๆ และมีแนวโน้มที่ชั ดไม่เอา sideway จากนั้นจะซ์้อวันละ 0.01 lot โดยใช้ทุนทดลอง 100USD และ maximum lot รวมแล้วจะต้องไม่เกิน 0.1 ไม่มี stop loss ทะยอยซื้อวันละ 2-3 ตัว..


ดูสิว่า 1-2 เดือน...ผลจะออกมายังไง .. ?

Port วันแรก  สงสัยต้องเติมเงินอ่ะ ไม่งั้นก็ต้องเปลี่ยนเป็น บัญชี cen

รวมลิงค์ข้อมูลเกี่ยวกับ Snow ball ที่จะต้องศึกษา




วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557

+++ คีย์ลัดในโปรแกรม MT4

คีย์ลัดในโปรแกรม MT4

ลูกศรซ้าย = เลื่อนกราฟไปทางซ้าย
ลูกศรขวา = เลื่อนกราฟไปทางขวา
Page Up = เลื่อนกราฟไปทางซ้ายแบบรวดเร็ว
Page Down = เลื่อนกราฟไปทางขวาแบบรวดเร็ว
Home = เลื่อนกราฟกลับไปในอดีตที่โปรแกรมสามารถแสดงให้ดูได้
End = เลื่อนกราฟกลับมาที่ปัจจุบัน
ปุ่มลบ (-) = ซูมกราฟออก
ปุ่มบวก (+) = ซูมกราฟเข้า
Delete = ลบเครื่องมืดที่ขีดไว้ออกจากหน้าจอ
ปุ่ม Backspace = ลบเครื่องมือที่ลากไว้ล่าสุดออกไป
ปุ่ม Enter = เปิดหน้าต่างค้นหากราฟ
ปุ่ม ESC = ปิดหน้าต่างค้นหากราฟ
ปุ่มฟังชั่นต่าง ๆ (Function Keys)
F1 = เปิดคู่มือการใช้งาน MT4 เบื้องต้น (ภาษาอังกฤษ)
F2 = เปิดดูข้อมูลของกราฟย้อนหลัง
F4 = เปิด “Meta editor” (แก้ไขข้อมูลของโปรแกรมใน drive c)
F8 = เปิดหน้าต่าง “Properties” ขึ้นมา
F9 = เปิดหน้าต่าง New Order (หน้าต่างที่จะใช้ในการทำการซื้อขายหรือเทรด) ขึ้นมา
F10 = เปิดหน้าต่าง Popup Price (จะเป็นตัวเลขเล็ก ๆ วิ่งไปวิ่งมา) ขึ้นมา
F11 = ทำใจกราฟกลายเป็น Full Screen (ขยายเต็มจอ)
F12 = เลื่อนหน้าจอกลับไปทางซ้าย
ปุ่ม Shift + ปุ่มฟังชั่น
Shift + F12 = ปุ่มเลื่อนราคาย้อนกลับทีละหนึ่งแท่งเทียน
Shift + F5 = เปลี่ยนกราฟที่เรียงอยู่ส่วนของ profile ของเรา
ปุ่ม Alt + ปุ่มลัด
Alt + 1 = เปลี่ยนรูปแบบของกราฟเป็นรูปแบบของ Bar Chart
Alt + 2 = เปลี่ยนรูปแบบของกราฟเป็นรูปแบบ Candlestick Chart
Alt + 3 = เปลี่ยนรูปแบบของกราฟเป็นรูปแบบ Line Chart (กราฟเส้น)
Alt + W = เรียกหน้าต่างช่วยในการจัดการกราฟปัจจุบันที่ใช้อยู่ออกมา
Alt + F4 = ปุ่มออกจากโปรแกรม
Alt + Backspace = เรียกเอาเครื่องมือที่ลบไปล่าสุดกลับคืน
ปุ่ม Ctrl + ปุ่มลัด
Ctrl + A = ปรับขนาดของหน้าจออินดิเคเตอร์ให้กลับมาอยู่ในรูปร่างปกติ (ในกรณีที่มีอินดิเคเตอร์ในหน้าจอ)
Ctrl + B = เรียกหน้าต่าง “จัดการเครื่องมือ (Object List)”ขึ้นมา
Ctrl + C = ก๊อบบี้ตัวอักษร หรือ คำใน MT4
Ctrl + D = เรียกหน้าต่าง Data Window ออกมา
Ctrl + E = เรียกใช้ Expert Advisor (EA)
Ctrl + F = เรียกใช้เครื่องมือ “Cross Hair”
Ctrl + G = เรียกใช้หรือไม่ใช้ Grid (ตาราง)
Ctrl + H = เรียกดู OHLC ( Open, High, Low, Close) ของวัน
Ctrl + I = เรียกหน้าต่าง “จัดการอินดิเคเตอร์ (Indicator List)” ขึ้นมา
Ctrl + L = เรียก Volume ของราคาให้ขึ้นมาแสดงผลบนหน้าจอ
Ctrl + M = เรียกหน้าต่าง Market Watch ออกมา
Ctrl + N = เรียกหน้าต่าง Navigator ออกมา
Ctrl + O = เรียกหน้าต่าง Option หรือ Setup ออกมา
Ctrl + P = ปรินส์กราฟออกมา (ในกรณีที่ต้องการปรินส์กราฟออกมาดูข้างนอก)
Ctrl + R = เรียกหน้าต่าง Tester ออกมา
Ctrl + S = เซฟกราฟที่ใช้เทรดเอาไว้ซึ่งจะออกมาในรูปแบบของไฟล์นามสกุล “CSV", "PRN", "HTM";
Ctrl + T = เรียกหน้าต่าง Terminal ออกมา
Ctrl + W หรือ Ctrl + F4 = ปิดหน้าต่างกราฟที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
Ctrl + Y = แสดงหรือซ่อนเส้นแบ่งวัน (Period Separator)
Ctrl + Z = เรียกเอาเครื่องมือที่ลบไปล่าสุดกลับคืน
Ctrl + ปุ่มฟังชั่น
Ctrl + F5 = เปลี่ยนกราฟที่ได้ตั้งค่าไว้ใน profile ของเรา
Ctrl + F6 = เปลี่ยนนหน้าต่างของกราฟที่เราใช้อยู่ ณ ปัจจุบันเป็นอันถัดไป

วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2556

+++ COG ที่ดูแล้วน่าสนใจ สำหรับ MT4 (FOREX)

ผมเลือก COG ที่ดูแล้วน่าสนใจ มาแชร์นะ ใครสนใจลองเอาไปลอง ถ้าไงลองแล้วรบกวนมาแชร์หน่อยว่าตัวไหน ดีไม่ดียังไง ตัวไหน repaint บ้างนะ 

http://www.mediafire.com/download/j9qr81c4dji6dtr/ download จากนี่ได้เลย

วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556

+++ บัญชี ECN คืออะไร ...?

อันนี้ copy มาจากหลายลิงค์ อ่านไปมาอาจจะงง เพราะเอามาวางต่อ ๆ กันเลย ไม่ได้ลำดับเรียบเรียงใหม่นะ เผื่อใครอยากรู้จะได้ไม่ต้องไปค้นไรใหม่ โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบเทรด ECN มากกว่า เพราะเวลา order แล้วมันง่าย ไม่ต้องมาลุ้น spread ว่าจะมากหรือน้อย และเวลา ตั้ง sell stop/buy stop หรืออื่น ๆ จะสะดวก ง่าย ไว ผมใช้ของ icmarket ก็แจ่ม แต่ต้องฝากขึ้นต่ำคือ 200$

บัญชี Forex แบบ ECN คืออะไร

ECN ย่อมาจาก Electronic Communications Network เป็นบริการให้นักลงทุนสามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับตลาด (interbank market) เพื่อให้นักลงทุนจะสามารถส่งคำสั่ง ซื้อ/ขาย โดยตรงกับนักลงทุนท่านอื่นๆ เวลาส่งคำสั่ง ซื้อ/ขาย โปรแกรมจะดูว่าแบงค์ไหนให้ราคาต่ำกว่าก็จะส่งออเดอร์ไปให้แบงค์นั้นซึ่งทำให้สเปรดต่ำกว่าบัญชีปกติทั่วไป และไม่มี Dealing Desk คอยรับและเช็คออเดอร์จากเราจึงทำให้สามารถส่งคำสั่ง ซื้อ/ขาย ได้รวดเร็วกว่าบัญชีปกติทั่วไปอีกด้วย

     ECN  นั้นรับรองการหักล้างคำสั่งซื้อขายที่ดำเนินระหว่างลูกค้าหลายท่านร่วมกันโดยที่โบรกเกอร์ (ฝ่ายที่ทำการซื้อขาย ซึ่งก็คือฝ่ายตรงข้าม (counteractor)) ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย โบรกเกอร์ ECN Forex สำหรับ retail trader นั้นเป็นแพลตฟอร์มที่คำสั่งซื้อขายแต่ละรายการที่วางไว้นั้นจะมีคำสั่งซื้อขายตรงข้ามไม่ว่าจะเป็นภายในบริษัทหรือที่ฝ่ายตรงข้ามโบรกเกอร์ ECN โดยอย่างหลังนี้ตามปกติจะมีตัวแทนเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่หรือธนาคารแห่งยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาสภาพคล่องให้แก่โบรกเกอร์ ECN ลูกค้าของโบรกเกอร์ ECN จะร่วมมือกันในการดำเนินการซื้อขาย พวกเขาได้รับการปกป้องจากความเสี่ยงต่างๆที่เกิดขึ้นเมื่อซื้อขายผ่านผู้สร้างสภาพคล่อง ข้อกำหนดพื้นฐานที่โบรกเกอร์ ECN ต่างต้องไปให้ถึงก็คือสภาพคล่องสูงที่ช่วยให้สามารถดำเนินการซื้อขายส่วนใหญ่ในหมู่ trader ในบริษัทได้ ทุกวันนี้บัญชีซื้อขายInstaForex กว่า 1,000,000 บัญชีรับรองสภาพคล่องที่เติมเต็มทุกความต้องการในระบบ ECN

     ในกรณีที่ไม่มีคำสั่งซื้อขายตรงข้ามกับการซื้อขายของลูกค้า ก็จะส่งต่อไปยังฝ่ายตรงข้ามของโบรกเกอร์ โดยเทคนิคนี้มีชื่อว่า STP (Straight Through Processing)ลูกค้าของโบรกเกอร์ ECN สามารถตรวจสอบอัตราสภาพคล่องและดำเนินการซื้อขายได้ การซื้อขาย ECN นั้นมีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับการซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ที่กลายมาเป็นผู้สร้างสภาพคล่อง เนื่องจากการซื้อขายของ trader ในตลาด Forex นั้นไม่ได้ต้านกับโบรกเกอร์ เพราะว่าโบรกเกอร์ก็มีฝ่ายตรงข้ามอยู่แล้ว: ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า โบรกเกอร์ ECN อีกเจ้า หรือสภาพคล่องอันเกิดจากหุ้นส่วนของโบรกเกอร์ ECN

     โบรกเกอร์ ECN นั้นแตกต่างจากผูู้สร้างสภาพคล่องและบริษัทนายหน้าอื่นๆตรงที่ไม่ได้เล่นต้านกับลูกค้า ลูกค้าของ IntsaForex สามารถเข้าถึงการซื้อขาย ECN ได้ตลอด 24 ชั่วโมงอันเนื่องมาจากอัตราสภาพคล่องภายในที่สูงและฝ่ายตรงข้ามที่เชื่อถือได้ 

     ECN คืออะไร  คือโบรกเกอร์ที่เชื่อมต่อกับแบงค์มากกว่า 1 แบงค์  เวลาเทรดโปรแกรมจะดูว่าแบงค์ไหนให้ราคาต่ำกว่า ก็จะส่งออเดอร์ไปให้แบงค์นั้น จึงเป็นข้อดีว่า ECN สเปรดต่ำกว่าโบรกทั่วไป  และ ECN จะไม่มี Dealing Desk คอยรับและเช็คออเดอร์จากเรา จึงซื้อขายได้เร็วมาก กดปุ๊บติดปั๊บ 

บัญชี Forex แบบ ECN คืออะไร

                      ECN ย่อมาจาก Electronic Communications Network เป็นบริการให้นักลงทุนสามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับตลาด (interbank market) เพื่อให้นักลงทุนจะสามารถส่งคำสั่ง ซื้อ/ขาย โดยตรงกับนักลงทุนท่านอื่นๆ เวลาส่งคำสั่ง ซื้อ/ขาย โปรแกรมจะดูว่าแบงค์ไหนให้ราคาต่ำกว่าก็จะส่งออเดอร์ไปให้แบงค์นั้นซึ่งทำให้สเปรดต่ำกว่าบัญชีปกติทั่วไป และไม่มี Dealing Desk  คอยรับและเช็คออเดอร์จากเราจึงทำให้สามารถส่งคำสั่ง ซื้อ/ขาย ได้รวดเร็วกว่าบัญชีปกติทั่วไปอีกด้วย
การเข้าสู่ตลาดอินเตอร์แบงค์จาก EXNESS หมายถึง:

    สเปรดที่แคบลงในตราสารที่นิยมส่วนใหญ่ - ความคล่องตัวของธนาคารต่างๆ จากผู้นำจะเสนอราคาที่ดีที่สุด    โอกาสเติมและถอนเงินจากบัญชีการซื้อขายผ่านระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิค - ระบบใหม่จะมีความยืดหยุ่นและสะดวกในการคิดเงินและหักบัญชีจากบัญชีการซื้อขาย
    การล็อกตำแหน่งตรงข้ามในหนึ่งเครื่องมือในเทอร์มินอล MetaTrader 4 - เนื่องจากไม่มีการจำกัดลูกค้าจากการยื่นกลยุทธ์การซื้อขายในเทอร์มินอล MT4 ปกติ
    การซื้อขายภายในสเปรด - เทรดเดอร์สามารถส่งผลต่อราคาที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อและขายโดยเปิดขีดจำกัดการสั่งซื้อด้วยสเปรด

คุณสมบัติหลักของไซต์ ECN:

    การซื้อขายทางอิเล็กโทรนิคช่วยเพิ่มความต้องการด้านความมั่นคงและปลอดภัยของระบบ ในกรณีแรกหมายถึงการรับประกันการป้องกันข้อมูลเกี่ยวกับผู้เข้าร่วมและธุรกรรมการซื้อขายที่ได้ดำเนินการสมบูรณ์แล้ว ECN ได้ให้ความสำคัญในการรับประกันความปลอดภัยของระบบ มีการใช้เทคโนโลยีพิเศษเพื่อตรวจสอบผู้ใช้ การเข้าสู่ข้อมูลแบ่งปันและเข้ารหัส

ฐาน ECN ที่เป็นที่รู้จักกันดีและใหญ่ที่สุดได้แก่ Currenex, HotSpotFXi, Integral และ FX Alliance (Fxall)
สรุปข้อดี
1.ความไวของเซิฟอยู่ในระดับที่ไวมาก  และจับคู่ราคาที่ต่ำที่สุด
2.:ซื้อขายกับผู้เล่นอื่นๆทั่วโลกได้โดยตรงผ่านแบงค์  ซื้อขายในระบบของธนาคารโดยตรง
3:ดูราคาซื้อขายที่ดีที่สุดในขณะนั้น
2.สเปรดเริ่มจาก 0
3.ไม่มีข้อจำกัดในการเทรด เวลาตั้ง tp ช่วงข่าวแรง ๆ  ก็ยังเป็น 0

สรุปข้อเสีย
1:มีค่าคอมมิชั่น
2:เปิดบัญชีขั้นต่ำ $1000


การส่งคำสั่งเทรดแบบปกติ เรียกว่า Execution มี 2 แบบ

1. instant execution  แบบที่เห็นทั่วไปคือ มีให้ตั้ง SL TP และ Maximum Deviation  แบบนี้เทรดภายใน กินกันเองในโบรก ส่วนใหญ่จะเป็นโบรกที่มี dealing desk
2. market execution  แบบนี้พบในโบรก ECN หรือ STP Direct Market ถ้า ECN แท้ ไม่มี Dealing Desk แต่ ECN ไม่แท้มี  และบางโบรกจะมีแบบกึ่ง คือแล้วแต่ลอตมาก/น้อย หรือแล้วแต่ช่วงตลาด

Dealing Desk แปลว่าโต๊ะรับกิน  ก็คือ โบรกรับกินออเดอร์ของเรานั่นเองครับ พบได้ทั่วไปในโบรก 4 หลัก สเปรดคงที่
Dealing Desk จะมีหลักๆ2แบบ คือ กินทั้งหมด  กับกินบ้างไม่กินบ้าง

เวลาเราสั่งเทรด โบรกที่มี dealing desk ก็จะรับออเดอร์ไป แล้วจับคู่กับอีกฝั่ง ถ้าเราขายก็จับกับคนซื้อ ถ้าเราซื้อก็จับกับคนขาย  ถ้าจับไม่ได้ก็กินเอง
ถ้าเราเทรดเก่งๆ เงินหนาๆ โบรกก็จะไม่กล้ารับกิน ถ้าจับคู่ไม่ได้ก็ค้าง ไม่รับกิน หรือบอกให้เราเปลี่ยนไปเล่นบัญชีใหญ่ที่ผูกกับแบงค์
โบรกที่มี Dealing Desk รับกินออเดอร์ มักจะมีกลยุทธิ์ต่างๆเพื่อให้เราเทรดเสีย เช่นช่วงข่างออก สเปรดจะขึ้นบ้าง(ทั้งที่โบรกมันสเปรดคงที่)  ลากกราฟไปกิน SL บ้าง แถมบางทียังทะลุ SL ไปไกลทั้งที่ปกติไม่ทะลุ หรืออาจจะเทรดบวกแล้วปิดออเดอร์ไม่ได้  สารพัดวิธีหาเรื่องให้เราเทรดเสีย

ส่วนโบรกที่ไม่มี Dealing Desk ( เรียกว่า NDD ) จะเป็นโบรกที่เป็น STP Direct Market หรือ ECN โบรกจะไม่รับกิน  ทุกออเดอร์จะส่งเข้าแบงค์ มี 2แบบ หลักๆ
1.กินค่าคอมมิชชั่น เนื่องจากโบรกไม่รับกิน จึงไม่มีรายได้จากสเปรด โบรกจึงกินคอมมิชชั่นแทน ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 0.4 - 1.0 pip ต่อออเดอร์  โบรกแบบนี้น่าเชื่อถือที่สุด เช่น roboforex-pro ecn แต่ไม่ใช่ว่าจะดีที่สุด

2.กินสเปรด เรียกว่า Mark Up โบรกเกอร์จะไม่กินคอมมิชชั่น  แต่จะบวกคอมมิชชั่นเข้าไปใน spread แทน มักจะพบได้ในโบรกเดียวกับข้อ1 แต่เป็นบัญชีเล็ก
อาจจะมี Dealing Desk หรือไม่มีก็แล้วแต่โบรก แต่ถึงมีก็ไม่รับกิน  โดยรวมจะเหมือน ECN ต่างกันเรื่องคอมมิชชั่น  บางโบรกจึงมีหลายบัญชี  สเปรดต่างกัน ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินเปิดบัญชี

อีกแบบคือโบรกลูกผสม เช่น Roboforex-pro  บางออเดอร์ผ่าน Dealing Desk บางออเดอร์ไม่ผ่าน 


http://www.thaiforexea.com/index.php?topic=1581.0;wap2
https://www.instaforex.com/th/ecn-broker.php
http://group.wunjun.com/fxcenter/topic/531442-15320

วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556

+++ เตรียมระบบ และทำความเข้าใจกับหน้าจอต่าง ๆ เป้าหมายเพื่อทดสอบ เรียนรู้ การเทรด Option FOREX/CFD Index ต่าง ๆ


     เนื่องจากการเรียนรู้เรื่องนี้ ใช้ Data จาก Efinance Smart ในการโหลกข้อมูล เข้ามาใส่ Amibroker เลยทำให้เทรดได้เฉพาะที่ Efin มี data และตัว FOREX Data นั้น ใช้ Amiquote ที่ซื้อมาพร้อม Amibroker เป็นตัว จัดการอยู่แล้ว 

ส่วนเว็บที่ใช้ในการทดสอบคือ https://www.cornertrader.ch/en/ 






วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

+++ ข่าว มีผลกระทบกับราคา เพราะคนเสพข่าว แล้วประมวลผล และเอาผลที่ประมวลได้มาเชื่อมกับความรู้สึก

http://www.forexfactory.com/ ไม่ว่าจะหุ้นไทยหรือ Forex หรือโปรดักส์ทางการเงินต่าง ๆ ข่าว มีผลกระทบกับราคา เพราะคนเสพข่าว แล้วประมวลผล และเอาผลที่ประมวลได้มาเชื่อมกับความรู้สึกและการตัดสินใต และคนเป็นคนกำหนดราคาของสินค้าทางการเงินนั้นๆ ..... เมื่อคนโลภ ไม่กลัว กล้า ราคาก็มักจะขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่เชื่อแบบนั้น ...และเมื่อทุกคนกลัว ... คนเหล่านั้นก็จะเป็นคนกำหนดราคาอีกเช่นกัน ..... 

แพร่มซ่ะยาว แค่จะบอกว่า เว็บนี้มันกรอง เงื่อนไขข่าวได้ และกำหนด filter ได้ครับ


หน้าจออื่น ๆ ที่น่าสนใจ แนะนำสมัครสมาชิกแล้วลองกด ๆ ดูครับ มีไรให้ดูเยอะ




วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

+++ iPanel อ้อ...มันเป็นแบบนี้นี่เอง รวมมิตร All in One Indicator ขั้นเทพ...แต่

     วันนี้น้องชาย @หุ้นพาไป ส่ง Indicator + Template ชุดหนึ่งสำหรับใช้เทรด Forex พอเปิดดูภาพก็เห็นตามนี้แหละ ตอนแรกก็เฉย ๆ เพราะเข้าใจว่า Indicator เยอะ มันก็แค่นั้น ดูยาก ตัดสินใจยาก และเราเองก็เห็นไรมาเยอะแหละ แต่.....

     หลังการติดตั้ง และเปิดออกมาดู แล้วชะแว๊บ...มองผ่าน ๆ ...แม่เจ้า อย่างตกใจ เฮ้ยไรกันเนี๊ยะ ดูง่ายไม่อยากแฮ่ะ.... มองแว๊บ ๆ ที่เห็นคือ Stoch,RSI,CCI,MACD,EMA1,EMA2 แบบ Multi Time Frame ที่บอกด้วยลูกศรว่ามัน Up, Down, Sideway up, Sideway down""" ในตารางกระจิ๊ดหนึ่ง แต่ดูง่ายค๊อด ๆ ตามภาพ แถมยังมีบอก สัดส่วน % Up, Down ให้เห็นว่าอันไหน ยังไง และมี ตัวหนังสือขนาดใหญ่ บอก ว่าขึ้นหรือลง แบบแข็งแรง หรือแบบเสี่ยง... บะเจ้า ... แจ่มว่ะ

เห็นดังนั้น ไม่รอช้า เข้า Google ค้นเลยว่าไรยังไง ได้ความมาว่า....อ้อ...แบบนี้นี่เอง 

What Indicators traders monitor with iPanel?

Stochastic 8, 3, 3 - iPanel shows position of 2 Stochastic lines %K and %D (on the screen shot above they would correspond to %K - red and D% - blue).
When red is above blue - iPanel will show a red arrow, sell.
When red is below blue - green arrow,  buy.

RSI 14 - When RSI reads above 50, it'll be an uptrend and a green arrow up, RSI below 50 - downtrend and the red arrow on iPanel pointing down.

CCI - (settings for CCI are unknown, unfortunately; my guess it might be 14 or 20.
Either way this doesn't prevent us from simply reading CCI signals on iPanel: green arrow up - buy. Red arrow down - sell.
On iPanel, CCI has a special status - it has an additional set of arrows - inclined up and inclined down arrows). These arrows have the following meaning:
Inclined arrow up (green) - CCI is against Selling.
Inclined arrow down (red) - CCI is against Buying.

MACD 12, 24, 6 - remember you can change indicator settings, on the screen shot I put MACD back to standard 12, 26, 9 settings.
MACD signals are the same as for Stochastic - simple lines crossover.
On standard MT4 MACD it'll be a crossover of MACD signal line (in red) and MACD histogram.

When MACD histogram is above zero and MACD signal line is hovering above the histogram - Sell.
When MACD histogram is above zero and MACD signal line is trading inside the histogram - Buy.

When MACD histogram is below zero and MACD signal line is hovering below the histogram - Buy.
When MACD histogram is below zero and MACD signal line is trading inside the histogram - Sell.

EMA1 - is a crossover signal from 2 MAs: 5 EMA and 8 EMA

5 EMA above 8 EMA - buy, opposite - sell.

EMA2 - is a crossover signal from 2 other MAs: 26 EMA and 52 EMA

26 EMA above 52 EMA - buy, opposite - sell

What time frames are displayed on iPanel?

That shouldn't create difficulties, we have: 4 hour, 1 hour, 30 min, 15 min, 5 min and 1 minute charts.

How to use iPanel Trend
iPanel Trend indicator speaks for itself, it suggests a current trend and tells how strong this trend is.
Unfortunately, it is unknown what formulas and indicators are involved in trend evaluation.


ต่อมามุมซ้ายบน จะมีบอก Spread ของราคาคู่เงิน แบบ RealTime เลย และมีนับถอยหลัง จำนวนเวลาที่เหลือ ก่อนที่จะขึ้น Bar ใหม่


     ตัวต่อมา COG หรือ Center of Gravity เลิศเลย ใช้บอกแนวโน้มในภาพ trend ใหญ่ว่าเป็นแนวโน้มไหน ของ TF ที่ดู ถ้ามันโค้งขึ้นเหมือนจานหงาย ก็แนวโน้มขาขึ้น และขอบ เขียว แดง บนและล่างสุดคือ แนวรับ ต้าน สำคัญของรอบ ส่วน เส้นประ ๆ ก็คือแนวจุดกลับตัว แต่น้ำหนักเบากว่าแดง เขียวเข็ม (มันคำนวณแบบ real time) แต่ทำให้เรามองแนวโน้มใน TF นั้น ๆ ได้ง่ายขึ้น
อยากรู้ก็เหมือนเดิม ค้น Google ได้นี่มา http://codebase.mql4.com/7977


และเลิศเลอ เพอเฟค ด้วย การบอกแนวรับแนวต้านใหญ่ 

....ไว้แค่นี้ก่อน เดะมาต่อวันหลัง วันนี้เดี้ยงซ่ะแหละ ไม่ค่อยฉาบาย



ทิ้งไว้ตอนท้ายก่อนมา เขียนสรุปต่อ

     โดยส่วนตัวแล้ว การใช้ Indicator ที่เยอะผมว่าไม่ดี ไม่เห็นด้วย เราอาจจะคิดว่า indicator แต่ละตัว ทำหน้าที่แต่ละอย่าง....แล้วถ้าเราดันไปคิดว่า จะได้สัญญาณเข้า 100% แบบไม่พลาด ...ผมว่าผิดเลยนะ เคยมีคนถามว่า ถ้าอย่างให้ MACD 40%, RSI 30% STock 30%"..ก็  100% งั้นก็ ไม่พลาดสิ...บอกตงเลยครับ เละแน่ ๆ  Indicator แต่ละตัว ทำหน้าที่ต่างกันก็จริง แต่มันมีการแยกว่า อันไหน เป็น Oscillator, Momentum ตัวไหนบอกก่อน บอกหลัง บอกช้า บอกเร็ว ดังนั้น...ผิดแน่ๆ ถ้าเอามายำรวมกัน

     เวลาผมได้ไรมาผมก็จะลอง และผมจะจำลองเหมือนทุกอย่างมันจริง มันจัง .... อันนี้ เอาฮาตัวเองครับ แม่งเยอะนักใช่ไหม หมุนจอใส่เลย แต่สรุปแล้ว.... มันเยอะเกินอ่ะผมว่า

     จากประสบการณ์ เวลาเทรดจริง ผมจะพยายามใช้ Indicator ให้น้อยที่สุด ซับซ้อนน้อยที่สุด เพราะค่าต่างๆ ที่ ส่งออกมา เวลาเรามองด้วยตา ....ภาพพวกนั้นจะส่งเข้าสมอง และสมองเราจะมี ความรู้ พอมันบวกกัน การให้น้ำหนัก หรือสรุปข้อมูลเพื่อส่งออกมายังการ เข้าหรือออกของเรา....มันจะรวนถ้า Indicator เยอะ ...... สรุปชอบตัวไหน ถนัดตัวไหน ตัดใช้แค่ที่ทดลองใช้แล้วมันเข้ากับ การตัดสินใจเรา และไม่ต้องคิดว่าจะต้องถูกทุกรอบ แต่ขอให้เวลาที่ถูก ให้ได้กำไรเยอะ ๆ และเวลาเสีย ให้เสียน้อย ๆ  แค่นี้ก็เลิศแล้วครับ