สรุปความแตกต่างระหว่าง MT4 กับ MT5 ว่ามีอะไรยังไงบ้าง
ข้อมูลจากหลากหลายเว็บไซต์
ลำดับ
|
หัวข้อ
|
MT4
|
MT5
|
1
|
การติดตั้ง
|
มีระบบติดต่อกับโบรกเกอร์โดยตรงและง่าย ต้องการ
รหัสที่อยู่ของ Server ในการเปิดบัญชี
ระหว่างการติดตั้ง
|
เซิร์ฟเวอร์ Metaquotes
trading ในปัจจุบัน มีการบรรจุเซิร์ฟเวอร์ในการเปิดบัญชีในระหว่างการติดตั้งไว้ให้แล้ว
แต่การส่ง ping ไปยังเซิร์ฟเวอร์ยังคงมีปัญหาเป็นบางครั้ง
สามารถเพิ่มเซิร์ฟเวอร์โดยเฉพาะสำหรับบัญชี Demo ได้โดยไม่มีปัญหา
|
2
|
จำนวนหน้าจอ/Timefreame
|
9 Timeframe
|
21 Timeframe ตั้งแต่เวลา
1 นาที จนถึง 1 เดือน พร้อมไม่จำกัดจำนวนหน้าจอที่ใช้ได้
สามารถสั่งงานได้ถึง 100
หน้าจอพร้อมกัน
|
3
|
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
(การเทรดตามข่าว)
|
ไม่มีตารางข่าว
|
มีการแบ่งหมวดหมู่ตารางข่าวออกเป็นแท็บต่างๆ
พร้อม รายละเอียดข่าว, เวลา, ความรุนแรงของผลกระทบ, Forecast, เปรียบเทียบข้อมูลเก่า
และอื่นๆอีกมากมาย
|
4
|
การภาณิชย์/การตลาด
|
ไม่มีการเชื่อมโยงการซื้อขายเพิ่มเติมเข้าไปในโปรแกรม
คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ เว็บ MQL4.com
ในการซื้อขาย ต่างๆ
|
คุณสามารถทำการซื้อขาย ผลิตภัณฑ์ทาง
Forex ต่างๆ
ภายในโปรแกรมได้ทันที ผ่าน แท็บ Market
|
5
|
อินดิเคเตอร์
และการวิเคราะห์เชิงวัตถุ
|
มีอินดิเคเตอร์ ติดมากับโปรแกรม
30 ตัว
|
มีอินดิเคเตอร์ ติดมากับโปรแกรม
38 ตัว, มีอินดิเคเตอร์ใหม่ๆ
เพิ่มขึ้นอีก,มีอินดิเคเตอร์ที่เป็นวัตถุแสดงผลเพิ่มขึ้น
22 ตัว และอินดิเคเตอร์แสดงผลเป็นกราฟฟิก เพิ่มขึ้น 46 ตัว
|
6
|
การสั่ง ออเดอร์
|
วางได้ทีละ 2 ออเดอร์ และอีก 4 Pending Order
|
วางได้ทีละ 2 ออเดอร์ ,4 Pending Order และ 2 Stop
Order
|
7
|
Expert Advisor
|
มีโปรแกรม MT4 Editor & Strategy Tester มาพร้อมกับโปรแกรม EA ถูกออกแบบด้วย ภาษา MQL
และสามารถทำการคอมไพล์ได้รวดเร็ว ไม่สามารถนำโค้ดของ EA
MT4 ไปแปลงเป็น MT5
ได้ ดังนั้น EA ของ MT4 จึงไม่สามารถนำไปใช้งานกับ MT5 ได้
|
มีโปรแกรม MT5 Editor ซึ่งมีการพัฒนา Strategy
Tester - มีระบบ Strategy Tester Agent Manager สำหรับการปรับแต่ง EA จากภายนอกได้
และคุณสมบัติอื่นๆอีกมากมาย - EA ถูกออกแบบด้วยภาษา C++
ทำให้มันทำการคอมไพล์ได้ช้าลง
|
8
|
อินเตอร์เฟซ
|
ง่ายต่อการแก้ไขให้เหมาะต่อการใช้งาน
, ระบบ One
Click Trading และ Drag & Drop มีให้ใช้งานเฉาพะ
MT4 Build 500 เท่านั้น
|
มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในการออกแบบอินเตอร์เฟซ
,
มีการเพิ่มกล่องค้นหา, แท็บข้อมูลเพิ่มเติมบนหน้าต่าง Market Watch , มีระบบ One Click Trading และ Drag &
Drop และอื่นๆ อีกมากมาย
|
9
|
การรองรับเทคนิคการเทรด
|
ยอมรับเทคนิคการเทรดทุกรูปแบบ
แต่อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์ก็ยังมีกฏข้อบังคับ
ไม่ให้มีการใช้งานเทคนิคบางอย่างได้
|
ไม่รองรับการ Hedging และ ทำตามข้อกำหนด FIFO
ตามการตั้งค่าปกติ
|
10
|
โบรเกอร์
|
โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ยังคงรองรับ MT4 มากกว่า MT5
|
ถ้าเทียบกับ MT4 แล้ว
ยังมีโบรกเกอร์ที่รองรับจำนวนน้อยกว่ามาก
|
มีเหตุผลง่ายๆหลายอย่างว่าทำไม โบรกเกอร์จำนวนมากยังคงไม่เปลี่ยนมารองรับ
MT5
1. EA ที่ทำงานบน MT4 ใช้งานไม่ได้กับ
MT5 และไม่สามารถทำการแปลงมาใช้บน MT5 ได้เลย
เมื่อรู้แบบนี้แล้วคนที่ใช้ EA อยู่คงเกิดคำถามว่า เฮ่ย !! ผมซื้อ EA มาตั้งแพง ลงทุนลงแรงมาตั้งเยอะ ทำไมใช้ไม่ได้ล่ะ และมีเพียงวิธีการเดียวเท่านั้นที่จะใช้ได้
ก็คือการเขียน EA ขึ้นใหม่ทั้งหมดในภาษา C++
2. บอกลาวิชา Hedging และ Scalping ไปได้เลย
(ตามกฎ FIFO) MT5 มีความเข้มงวดด้านกฎระเบียบ
ในการทำให้ตัวเองเป็นโปรแกรมมาตรฐานมากขึ้น ทำตามกฎ NFA ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ควรเลย
ด้วยเหตุผล
2 อย่างนี้ ทำให้ทั้งผู้ใช้และโบรกเกอร์เซ็งไปตามๆกัน
และเข้าใจว่านี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ MQL (MT4) พัฒนาคุณสมบัติบางอย่างของ MT5 ให้ MT4 ใช้งานได้เช่น ระบบ One Click
Trading, Drag & Drop, Signal Tab,
Code Base และอื่นๆ ลงไปใน MT Build 500 ซึ่งเป็น
MT4 เวอร์ชั่นล่าสุดนั่นเอง
ทั้งนี้ก็มีความชัดเจนว่าพวกเขาเน้นทั้งกำลัง
และข้อมูลส่วนใหญ่ไปที่ระบบชุมชนของ MQL5 และเพิ่มระบบรองรับอีกมากมายที่คุณจะไม่สามารถหาได้ในระบบชุมชนของ
MT4 ได้เลย
เพื่อเป็นการโน้วน้าวแกมบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนจาก MQL4 มาใช้
MQL5 แทน
ข้อดีของ MT5
- มีการพัฒนาประสิทธิภาพและความรวดเร็ว
- รูปแบบหน้าจอ 3 ชนิด Timeframe 21 แบบ และ เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลกว่า 70 ชิ้น
- สามารถเทรดในตลาดที่แตกต่างกันได้ - Options, Futures, Stocks, Forex
- มีหน้าเครื่องมือที่ซับซ้อนในการรายงานผลการเทรดทั้งหมด
- มีข้อมูลหลากหลายชนิดมากขึ้น และง่ายต่อการทำงานร่วมกับโปรแกรมอื่นๆ เช่นโปรแกรมที่พัฒนาโดยภาษา C++
- มีออเดอร์ 4 ชนิด ที่แตกต่างกัน พร้อมระบบ จัดการออเดอร์ 4 รูปแบบ
ทำความเข้าใจกับหน้าจอ
MT5 สามารถทำการปรับเปลี่ยนตำแหน่งหน้าจอต่างๆได้ โดนขึ้นอยู่กับความต้องการ
และลักษณะนิสัยของเทรดเดอร์ ในการใช้งานชั่วคราวคุณสามารถตั้งค่า สีของกราฟต่างๆ
หรือวัตถุต่างๆ บนหน้าจอได้เพื่อทำให้มองเห็นข้อมูลต่างๆได้อย่างชัดเจน
ถนัดตามากขึ้น พร้อมระบบ Template ที่คุณสามารถทำการบันทึกการตั้งค่าต่างๆ ที่คุณแก้ไขไปแล้วได้ทันที
และเมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการใช้รูปแบบนั้นๆ ก็เพียงแค่เรียกใช้ขึ้นมาเท่านั้น
MT5 มีบริเวณให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นราคาตามเวลาจริงได้ทันที
ทำให้สามารถวางแผนแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที รองรับรูปแบบกราฟ 3 ชนิด Japanese
Candlesticks, Sequence of Bars และ Line
Candlesticks และ Bars จะให้ข้อมูลครบถ้วนทั้งราคาสูงสุดและต่ำสุด
รวมถึงราคาเปิดและราคาปิดด้วย ส่วน Line นั้นมีข้อบกพร่องบางประการเพราะมันไม่ได้ให้ข้อมูลทั้งหมดของราคาตลาด
และเงื่อนไขในขณะนั้น ซึ่งจะทำให้ยากสำหรับผู้เริ่มต้นในการหาเทรนด์ตลาด
Comparison MetaTrader 5 Vs MetaTrader 4
มันจำเป็นที่เราจะต้องทำการเปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างทั้งสองโปรแกรมนี้
เพื่อให้เราทำการเทรดให้ได้ผลลัพท์ที่ดีที่สุด
เครื่องมือในการวิเคราะห์
- MT5 มีเครื่องมือวิเคราะห์ถึง
79 แบบ และมี Timeframe 21 แบบ
ซึ่งทำให้มันสามารถเปิดกราฟราคาได้ถึง 100 กราฟด้วยกัน ในขณะที่ MT4 มีเพียง 9 Timeframe ในการเทรดผลิตภัณฑ์ต่างๆ และมี
อินดิเคเตอร์ 50 ตัวในการวิเคราะห์เทรนด์, จุดเข้าเทรด และจุดปิดการเทรด
การส่งคำสั่งเทรด - MT4 รองรับรูปแบบการส่งคำสั่งเพียง
3 รูปแบบ นั่นคือ Instant, Market และ Request ในขณะที่ MT5 รองรับถึง 4 รูปแบบด้วยกัน - Instant,
Market, Request และ Exchange Execution และทั้ง
2 โปรแกรมรองรับชนิด ออเดอร์ 3 แบบ เช่นกันนั่นคือ Market, Pending และ Stop Orders
ความเข้ากันได้
- MetaQuotes ได้ประกาศออกมาว่า
มันจะไม่มีความเชื่อมต่อกันระหว่าง MT4 และ MT5 นี่เป็นผลพวงมาจากการพัฒนาภาษาโปรแกรมใน
MT5 เพื่อผลลัพท์ด้านความรวดเร็วในการทำงาน ดังนั้น EA
ของ MT4 (.mq4 และ .ex4) จะไม่สามารถทำการรันบน MT5 ได้ การคอมไพล์ไฟล์ของ MT4
นั้นทำได้รวดเร็วแทบจะกระพริบตาเดียว ในขณะที่ MT5 รู้สึกราวกับว่ามันเป็นการเดินทางที่ยาวนานเลยทีเดียว
การจัดการการซื้อ/ขาย
- เพื่อเคารพกฎของ National Futures Association และ กฎของยุโรป MT5 ได้ทำการออกแบบให้ทำการเทรด
ได้เพียง 1 ออเดอร์ต่อการซื้อหรือขายเท่านั้น สำหรับหุ้นใดหุ้นหนึ่ง หรือ
คู่เงินใดคู่เงินหนึ่ง ซึ่งนั่นทำให้การ Hedging นั้นไม่สามารถใช้งานได้บน
MT5 ตัวอย่าง 10.00 น. ซื้อ EURUSD 1 lot ที่ราคา 1.2000 และหลังจากนั้น 14.00 น. ซื้อ EURUSD 2 lot ที่ราคา 1.300
อินเตอร์เฟสและกราฟราคา
- MT 5 มีขนาดไอคอนใหญ่กว่าเดิม
และมีการจัดวางระยะห่างที่เหมาะสม ถ้าเทียบกับ การออกแบบ แบบอัดแน่นของ MT4
ทำให้ MT5 นั้นออกมาหน้าตาดูดีกว่า MT4
มากทีเดียว แต่ในขณะเดียวกันมันก็ ใช้ RAM และ
CPU มากกว่าเดิม
Backtesting - การใช้งานใน MT4 ไม่ค่อยให้ประโยชน์มากเท่าไรนักซึ่งก็เป็นจุดอ่อนหนึ่ง
ในขณะที่ MT5 Backtesting นั้นต้องการให้มีการปรับแต่งแก้ไขจำนวนมาก
ก่อนที่จะเริ่มทำการ Testing
สรุป
การที่คุณจะเลือกใช้อะไรนั้นขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง
แต่อย่างน้อยคุณก็ได้รู้จุดแตกต่างระหว่าง 2 เวอร์ชั่นนี้แล้ว
และผมเองก็หวังว่าข้อเสียต่างๆของ MT5 จะถูกกำจัดออกไปหลังจากนี้ รวมถึง ปลั๊กอิน
ต่างๆที่จะทำให้การเทรดทำงานได้ดีขึ้นกว่านี้
อินเตอร์เฟสและกราฟราคา
ใน
MT5 ปุ่มต่างๆ
ใหญ่ขึ้น และมีพื้นที่ในการกดมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็หมายความว่า
มันทำให้พื้นที่ของหน้าต่างกราฟราคาเล็กลงเล็กน้อย ถ้าเทียบกับ MT4 อีกทั้งยังมีเสียงบ่นมาจากผู้ใช้ Fibonacci Retracement ว่ามันทำงานได้มีความแม่นยำน้อยลงกว่าเดิม
กราฟราคาของ
MT5 นั้นมีความแตกต่างไม่มากนักจาก
MT4 มีเพียงเรื่อง Timeframe เท่านั้นที่แตกต่างกัน
โดยการเพิ่ม Timeframe ระหว่างกลางของ Timeframe M1,
M5, M15, M30, H1, H4, D1, W1 และ MN ทำให้เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงระยะเวลาต่างๆได้มากขึ้นกว่าเดิมในการเทรด
อีกทั้ง
MT5 ยังสามารถจัดการหลายบัญชีได้ภายในตัวเอง
ด้วย Account Navigator ที่ให้เทรดเดอร์ทำการสลับเปลี่ยนระหว่างบัญชีได้ง่ายดาย
อีกทั้งยังยอมให้เทรดเดอร์ใช้แผนการเทรดได้หลากหลายแผนการในหลากหลายบัญชี –
ซึ่งระบบนี้อาจจะเป็นประโยชน์มากกว่าสำหรับเทรดเดอร์ระดับสูง
Hedging
ข้อเสียใหญ่ข้อหนึ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับ
MT5 ก็คือ มันไม่รองรับการเทรดแบบ Hedging และ Multi-Hedging ซึ่งจริงๆแล้ว เงื่อนไขในการ Hedge
นั้น
เป็นข้อหนึ่งเช่นกันที่เทรดเดอร์หลายคนพยายามค้นหาและตัดสินใจเลือกที่จะใช้
โปรแกรมนั้นๆ ในการเทรด - มีหลายคนเช่นกันที่ออกมาแก้ไขด้วยการใช้
ปลั๊กอินเข้าช่วย เพื่อให้ MT5 สามารถทำการ Hedging ได้ ในขณะที่นี่อาจจะพอมีทางออกจากข้อนี้ได้บ้าง
แต่คนส่วนมากก็ยังเลือกที่จะไม่ใช้มันซะมากกว่า
Indicators
ในขณะที่
MT4 สามารถรองรับอินดิเคเตอร์ได้หลากหลาย
และสามารถให้ผู้ใช้ทำการปรับแต่งแก้ไข อินดิเคเตอร์ได้เอง MT5 นั้น กลับยิ่งดีกว่าเดิมเสียอีก ด้วยการแนะนำอินดิเคเตอร์ใหม่ๆ
ที่กำลังเป็นที่นิยม เช่น Variable Index Dynamic Average, the Fractal
Adaptive Moving Average, the Adaptive Moving Average และ Double
and Triple Exponential Moving Average's อีกทั้งยังมีอินดิเคเตอร์ระดับสูง
ที่จะมอบความสามารถในการมองเห็นโอกาสในการเทรดที่กว้างมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
และมีข้อควรทราบด้วยว่า MT5 นั้น
ได้ทำการปรับการแบ่งหมวดหมู่การใช้งานของ EA เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้
สิ่งที่พวกเข้าต้องการได้ง่ายขึ้น
ความเข้ากันได้
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้
MT5 ได้รับความนิยมยังไม่เป็นวงกว้างมากนักนั่นเพราะว่า
EA และการเขียนโปรแกรมใน MT4 นั้นไม่สามารถนำมาใช้กับ
MT5 ได้เลย นั่นหมายถึง EA และ Indicator
จำนวนมากที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจะไม่สามารถนำมาใช้กับ MT5 ได้โดยสิ้นเชิง
แต่ทั้งนี้มันก็สามารถทำการเขียนโค้ดขึ้นใหม่ทั้งหมดเพื่อให้สามารถนำมาใช้งานกับ MT5
ได้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้ยังไม่มีระบบอัติโนมัติใดๆ
รองรับการทำงานตรงนี้ นั่นหมายถึงว่า ผู้ที่ต้องการใช้ EA ของ
MT4 มาใช้กับ MT5 จะต้องทำการเขียนโค้ดด้วยตัวเองขึ้นใหม่ทั้งหมด
- และเนื่องจากระบบการเทรดอัตโนมัตินั้นเป็นส่วนสำคัญข้อหนึ่งของ Metatrader
มันคงจำเป็นจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าที่ MT5 จะมี EA และ Indicators รองรับเพียงพอที่จะทำให้ผู้ใช้
MT4 เริ่มสนใจ มันมากขึ้น
Computing Power
มีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือการใช้กำลังของคอมพิวเตอร์ในการเปิดใช้งานโปรแกรม
MT4 นั้น มีความต้องการใช้ RAM น้อยกว่า
ในขณะที่ MT5 ต้องการใช้ RAM มากกว่าถึง
3 เท่าตัว
แต่อย่างไรก็ตามมันไม่เป็นปัญหาเท่าไรนักหากคุณใช้คอมพิวเตอร์รุ่นที่ยังใหม่อยู่
สัก 2-3 ปี แต่หากเก่ากว่านั้นแล้วล่ะก็ คุณจะได้เจอปัญหากับการใช้งาน MT5 แน่นอน
ความต้องการสเปกคอมพิวเตอร์
มีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือการใช้กำลังของคอมพิวเตอร์ในการเปิดใช้งานโปรแกรม
MT4 นั้น มีความต้องการใช้ RAM น้อยกว่า
ในขณะที่ MT5 ต้องการใช้ RAM มากกว่าถึง
3 เท่าตัว
แต่อย่างไรก็ตามมันไม่เป็นปัญหาเท่าไรนักหากคุณใช้คอมพิวเตอร์รุ่นที่ยังใหม่อยู่
สัก 2-3 ปี แต่หากเก่ากว่านั้นแล้วล่ะก็ คุณจะได้เจอปัญหากับการใช้งาน MT5 แน่นอน
สรุป
ในขณะที่
MT5 เพิ่มคุณสมบัติของตัวเองขึ้นมากกว่า
MT4 แต่ก็ยังมีเงื่อนไขอื่นๆที่ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากยังไม่ยอมเปลี่ยนมาใช้
นั่นเพราะการที่ MT5 ยังมีปริมาณของ EA ที่ยังน้อยกว่ามาก เนื่องจากระบบการเทรดโดยอัตโนมัตินั้นก็เป็นเหตุผลหลัก
อย่างหนึ่งเช่นกันที่ทำให้คนนิยมใช้งาน Metatrader และยังมีอีกหลายคนเช่นกันที่ยังคงชอบการใช้งานของ
MT4 อยู่ อีกทั้งยังมีเหตุผลเรื่องของการเทรดแบบ Hedge
โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ ส่วนเสริมใดๆ เพิ่ม
แต่หากคุณไม่ได้ประสบกับปัญหาเหล่านี้ แล้วล่ะก็
ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่คุณจะยังจำเป็นต้องใช้ MT4 อยู่
MT4
|
MT5
|
|
ฟังก์ชั่น
|
1. ติดตั้งง่าย
2. เทรดเดอร์สามารถหาโหลด อินดิเคเตอร์ MT4 มาใช้ในโปรแกรมได้
3. MT4 รองรับการขยายแบบต่อเนื่องได้
|
1. มี Timeframe
21 แบบ ในการใช้วิเคราะห์
2. มาพร้อมกับ อินดิเคเตอร์ 38
แบบ
3. สามารถขยายได้แค่ 4 แบบ
|
ความยืดหยุ่น
|
ด้วย MAM - MT4 สามารถเข้าถึงบัญชีหลายบัญชี และทำการจัดการได้
|
MT5 สามารถจัดการบัญชีหลายบัญชีได้
|
กราฟฟิก
|
อินดิเคเตอร์ของ MT4 เข้าใจได้ง่ายกว่า
|
ปุ่มและไอคอนต่างๆ ใหญ่มาก
และนั่นทำให้การทำงานช้าลง
|
ความเร็ว
|
ช้ากว่าเล็กน้อย
|
เร็วกว่า
|
ความสามารถในการเข้าถึง
|
มีผลิตภัณฑ์ Forex น้อยกว่า MT5
|
รองรับการซื้อขายหลากหลายผลิตภัณฑ์
รวมถึง หุ้น และ options ด้วย
|
แปลและเรียบเรียงโดย : www.rattanasak.com